โครินธ์ (เมือง) CORINTH
สมัยพระคัมภีร์ใหม่เมืองโครินธ์เป็นเมืองที่สำคัญมากทางพาณิชย์ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเส้นทางเดินสินค้า ทั้งทางบกและทางทะเล ฝ่ายศีลธรรมนั้นเมืองโครินธ์ลามกอนาจารมาก จนคำว่า “เล่นยังกะชาวโครินธ์” กลายเป็นคำใช้ด่าเล่นสวาทในสมัยนั้น (1 คร. 6:9-18)
เปาโลก่อตั้งคริสตจักรที่เมืองโครินธ์ในระหว่างการเดินทางประกาศข่าวประเสริฐเที่ยวที่สอง (กจ. 18:18; 16:1-2)
เปาโลได้กลับไปเยี่ยมคริสตจักรโครินธ์ในระหว่างการเดินทางไปประกาศเที่ยวที่สามและได้เขียนจดหมายถึงพวกเขา ซึ่งได้มีไว้ในพระคัมภีร์ของเราสองฉบับ
โครินธ์ (หนังสือ) CORINTHIANS (BOOK)
เมืองโครินธ์เป็นเมืองท่าที่สำคัญในแคว้นอาคายา ที่อยู่ภายใต้ของประเทศกรีก เป็นเมืองที่มีการค้าขายมาก แต่มีชื่อเสียงไม่ดี เนื่องจากมีพวกโสเภณีมาก (ดู โครินธ์ เมือง ) อาจารย์เปาโลไปถึงเมืองโครินธ์ครั้งแรกในระหว่างการเดินทางประกาศเทียวที่สองขณะนั้นท่านได้อาศัยอยู่ที่เมืองโครินธ์ถึงหนึ่งปีกับหกเดือน และก่อตั้งคริสตจักรที่นั่น (กจ. 18:1-12) คนที่กลับใจเป็นคริสเตียนหลายคนเมื่อก่อนเคยยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ดีฝ่ายศีลธรรมเป็นเหตุที่คริสตจักรนี้มีปัญหายุ่งยาก (1 คร.1:26-27; 6:9-11)
สาเหตุที่เขียนจดหมายฉบับแรก
หลังจากที่เปาโลออกจากเมืองโครินธ์ ท่านได้ส่งจดหมายฉบับหนึ่งถึงคริสตจักร เป็นจดหมายกล่าวถึงปัญหาบางอย่าง แต่ไม่ได้อยู่ในพระคัมภีร์ของเรา (1 คร. 5:9) ต่อมาเปาโลได้ส่งทิโมธีไปยังแคว้นมาซิโดเนียและลงมายังเมืองโครินธ์ เพื่อช่วยแก้ปัญหาในคริสตจักร ขณะนั้นเปาโลอาศัยอยู่ที่เมืองเอเฟซัสในเอเชียน้อย (กจ. 19:1, 22; 1 คร. 4:7; 16:10)
ขณะที่ทิโมธีกำลังเดินทางไปโครินธ์ทางบก มีคนจากโครินธ์มาถึงเอเฟซัสโดยทางเรือ บอกเปาโลว่า คริสตจักรโครินธ์มีการทุ่มเถียงกันจนแตกออกเป็นก๊กเป็นเหล่า (1 คร. 1:10-14) นอกจากนั้นมีการผิดประเวณีและการทะเลาะวิวาทกันระหว่างพวกคริสเตียน ถึงขนาดขึ้นศาลสู้ความกัน (1 คร. 5:1; 6:1) เปาโลเป็นห่วงคริสตจักรโครินธ์มากอยู่แล้ว ก็มีพวกผู้แทนจากโครินธ์มาปรึกษาท่านเรื่องปัญหาอื่น ๆ (1 คร. 7:1; 16:17) เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเหตุที่เปาโลเขียนจดหมายที่เราเรียกว่า 1 โครินธ์ ส่งถึงคริสตจักรโครินธ์อีก และอาจถึงพวกเขาก่อนทิโมธี (1 คร. 16:8-10)
ข้อความในฉบับแรก
พอกล่าวคำคำนับจบแล้ว (1:1-9) เปาโลกล่าวเรื่องการทุ่มเถียงแตกแยกกันซึ่งได้เกิดขึ้นในคริสตจักร เปาโลไม่ได้เป็นผู้ก่อปัญหานี้ แต่ปัญหาได้เกิดขึ้นเพราะพวกเขาอยากฉลาดตามปัญญาฝ่ายโลก แต่ไม่รู้จักพระปัญญาของพระเจ้า (1:10-31) ท่านเน้นย้ำถึงความแตกต่างกันระหว่างปัญญาสองฝ่ายนี้ (2:1-16) และตำหนิคริสตจักรที่ไม่ได้เติบโตฝ่ายวิญญาณ (3:1-9) ท่านเตือนพวกเขาไว้ว่า ทุกคนต้องให้การกับพระเจ้า (3:10-23) จึงควรรู้ว่า การรับใช้พระเจ้าไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแต่สำคัญที่สุด (4:1-21)
เปาโลต้องตำหนิต่อไปเกี่ยวกับการผิดประเวณีที่พวกเขาปล่อยปละละเลย (5:1-13) และเรื่องพี่น้องบางคนเป็นความกัน (6:1-11) ท่านได้เตือนเกี่ยวกับการล่อลวงทางเพศ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่เมืองโครินธ์ (6:12-20)
ในบทที่ 7 เปาโลเริ่มตอบปัญหาที่พวกผู้แทนของคริสตจักรโครินธ์ได้ถามท่าน ท่านกล่าวถึงความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายเรื่องการแต่งงานและการครองชีพ (7:1-40) ส่วนเรื่องการรับประทานอาหารที่คนอื่นได้ถวายรูปเคารพ ท่านเตือนอย่าให้ใช้เสรีภาพของคริสเตียนไปในทางที่ผิด (8:1-13) คริสเตียนต้องรู้จักเสียสละของเขาบ้างเพื่อเห็นแก่พี่น้อง (9:1-27) รูปเคารพเคยเป็นปัญหาสำหรับพวกอิสราเอล (10:1-13) และจะเป็นปัญหาสำหรับพวกคริสเตียนด้วยถ้าเขาไปยุ่งเกี่ยวกับงานเลี้ยงของรูปเคารพ (10:14-22) คริสเตียนไม่มีอิสระที่จะทำตามใจ แต่เขาต้องคิดถึงการดำเนินชีวิตของเขา เขาไม่ควรให้การกระทำของเขาเป็นเหตุให้คนอื่นสะดุด (10:23-11:1)
เรื่องการนมัสการในคริสตจักร เปาโลสอนให้ระเบียบ เวลาอธิษฐานหรืออ่านพระคัมภีร์ (11:2-16) และเวลาที่พวกเขาร่วมทำพิธีศีลระลึก (11:17-34) ท่านสอนเรื่องการใช้ของประทานฝ่ายวิญญาณเพื่อประโยชน์ส่วนร่วม (12:1-31) และเพื่อส่งเสริมความรักในระหว่างพวกพี่น้องด้วยกัน (13:1-13) ท่านได้เตือนอีกเกี่ยวกับการพูดภาษาแปลก ๆ (14:1-40)
คริสเตียนชาวโครินธ์บางคนเข้าใจผิดเรื่องการเป็นขึ้นมาจากความตาย เปาโลก็กล่าวถึงการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซู เพื่อให้พวกเขาแน่ใจว่าเขาเองก็จะเป็นขึ้นมาจากความตายเช่นเดียวกัน (15:1-28) ร่างกายที่เป็นขึ้นมาใหม่นั้นจะเหมาะสำหรับชีวิตในโลกหน้า ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา (15:29-58) แล้วท่านก็จบจดหมายโดยเขียนเรื่องส่วนตัวบ้างเล็กน้อย (16:1-24)
สาเหตุที่เขียนจดหมายฉบับที่สอง
อาจารย์เปาโลตั้งใจไว้ว่า พองานที่เอเฟซัสเสร็จแล้วท่านจะไปที่โครินธ์ (กจ. 19:21; 1คร.16:5-9) เมื่อทิโมธีกลับจากโครินธ์มาพบเปาโลที่เอเฟซัส ทิโมธีบอกเปาโลว่าจดหมายของท่านไม่ช่วยให้สถานการณ์ของคริสตจักรดีขึ้นเลย ทำให้เปาโลตัดสินใจลงเรือเริ่มเดินทางไปโครินธ์ (ตามที่ท่านเคยเตือนไว้ใน 1 คร. 4:19-21) การไปโครินธ์คราวนี้ทำให้ท่านได้รับความทุกข์มาก เนื่องจากพวกเขาบางคนต่อสู้ท่านอย่างรุนแรง (2 คร. 2:1) นี่เป็นครั้งที่สองที่เปาโลไปโครินธ์ ซึ่งท่านอ้างถึงใน 2คร. 13:1-2 ตอนที่กำลังจะไปครั้งที่สาม
พอเปาโลกลับเมืองเอเฟซัสไม่นาก็ได้ข่าวว่า การที่ท่านไปโครินธ์เมื่อคราวที่แล้ว นั้นไม่ได้ทำให้ฝ่ายต่อต้านดีขึ้นเลย กลับทำให้พวกเขารวมหัวกันต่อต้านมากขึ้น ท่านรู้สึกโกรธแต่ได้ยับยั้งไว้และไม่ได้เดินทางไปยังโครินธ์ในทันที แต่ได้เขียนจดหมายไปแทน เป็นจดหมายที่ใช้ถ้อยคำที่รุนแรงมาก ซึ่งทิตัสเป็นผู้ที่นำไปให้คริสตจักรโครินธ์ (2 คร. 2:3-4; 7:8; 12:18)
เมื่องานที่เอเฟซัสเสร็จแล้ว เปาโลก็คิดที่จะเดินทางไปโครินธ์อีก แต่จะไปทางอ้อมคือจะขึ้นเหนือผ่านเมืองโตรอัสและเข้าไปในแคว้นมาซิโดเนีย ตามแผนการของเปาโลพอทิตัสนำเอาจดหมายไปที่คริสตจักรโครินธ์ เขาจะเดินทางกลับโดยผ่านแคว้นมาซิโดเนีย ไปพบเปาโลที่เมืองโตรอัส แต่เปาโลคอยทิตัสที่เมืองโตรอัสไม่ไหว ท่านจึงข้ามไปยังแคว้นมาซิโดเนีย (2 คร. 2:12-13; กจ. 20:1) ท่านได้พบทิตัสที่มาซิโดเนีย และได้ทราบว่าจดหมายฉบับรุนแรงนั้นได้ผลดี โดยพวกต่อต้านเปาโลสำนึกผิดและเลิกก่อความยุ่งยาก (2 คร. 7:5-6) เปาโลรู้สึกยินดีและขอบพระคุณพระเจ้า ท่านจึงเขียนจดหมายอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งเป็นฉบับที่อยู่ในพระคัมภีร์ของเรา จึงเรียกว่าจดหมายโครินธ์ฉบับที่สอง ทิตัสกับคริสเตียนอีกสองคนเป็นผู้ที่นำเอาไป (2 คร. 8:16-18)
ข้อความในจดหมายฉบับที่สอง
เปาโลเริ่มต้นโดยให้กำลังใจพวกคริสเตียนไว้ พวกเขาจะได้ทนต่อความยากลำบากต่าง ๆ (1:1-11) ท่านชี้แจ้งสาเหตุที่จำเป็นต้องเขียนจดหมายรุนแรงนั้น (1:12-2:4) พวกคริสเตียนที่โครินธ์ได้จัดการกับตัวการที่ก่อการยุ่งยากในคริสตจักรเรียบร้อยแล้ว แต่เปาโลเสนอให้พวกเขาให้อภัยและรับคนผิดนั้นกลับมาอีก (2:5-11)
เปาโลสรรเสริญพระเจ้าที่ได้ทรงนำให้มีชัยชนะท่ามกลางความยุ่งยากลำบากใจ (2:12-17) แสดงถึงสง่าราศีของข่าวประเสริฐที่ท่านประกาศนั้น (3:1-18) ท่านเน้นว่าผู้ที่รับใช้พระเจ้าต้องซื่อสัตย์และจริงใจทุกอย่าง (4:1-18) โดยจะแน่ใจว่าในโลกหน้าเขาจะได้รับความสุขเต็มเปี่ยมสมหวัง (5:1-10) ในโลกปัจจุบันคริสเตียนมีหน้าที่ประกาศข่าวประเสริฐ( 5:11-21) ไม่ว่าจะประสบอุปสรรคมากมายก็ตาม (6:1-13)
จากนั้นท่านก็กล่าวถึงเรื่องราวเกี่ยวกับจดหมายฉบับก่อน ทั้งยังเตือนเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมที่คนส่วนใหญ่ที่ยังไม่เป็นคริสเตียน (6:14-7:1) ท่านดีใจที่พวกชาวโครินธ์ฟังคำสอนตักเตือน (7:2-16) จึงหนุนใจพวกเขาโดยเฉพาะในเรื่องการช่วยพี่น้องที่ยากจนในกรุงเยรูซาเล็ม ปีที่แล้วพวกโครินธ์ได้ลงมือจัดการเรี่ยไรทรัพย์ แต่เกิดเกียจคร้านในภายหลัง (8:1-18) เปาโลก็ตักเตือนอีก และสัญญาว่า การถวายทรัพย์ด้วยใจกว้างขวางจะไม่ขาดพระพรจากพระเจ้า (8:16-9:15)
ตอนสุดท้ายเกี่ยวกับการที่เปาโลเป็นอัครทูต เหตุที่ต้องพูดถึงเรื่องนี้เพราะมีบางคนเที่ยวสอนตามคริสตจักรกล่าวร้ายเปาโล เปาโลเปรียบเทียบระหว่างการคุยโม้กับฤทธิ์เดชของพระเจ้า (10:1-18) ทั้งกล่าวว่าท่านไม่ด้อยกว่าผู้คุยโม้เหล่านั้น (11:1-15) ท่านกล่าวถึงประสบการณ์ในฐานะที่เป็นอัครทูตแต่ท่านไม่อยากโอ้อวด (11:16-12:10) อีกไม่นานท่านจะมาถึงเมืองโครินธ์อีก (12:11-21) ท่านจึงได้เตือนคริสเตียนชาวโครินธ์ให้พิจารณาตนเอง เพื่อท่านไม่ต้องใช้อำนาจอัครทูตลง
No comments:
Post a Comment