Thursday, July 14, 2011

ขอโทษกับการเริ่มต้นใหม่



สดด.103  จิตใจของข้าเอ๋ยจงถวายสาธุการแด่พระเจ้าและอย่าลืมพระราชกิจอันมีพระคุณทั้งสิ้นของพระองค์.. ผู้ทรงอภัยความบาปผิดทั้งสิ้นของท่านผู้ทรงรักษาโรคทั้งสิ้นของท่าน.. พระเจ้าทรงพระกรุณาและมีพระคุณทรงกริ้วช้าและอุดมด้วยความรักมั่นคง.. พระองค์จะไม่ทรงปรักปรำเสมอหรือทรงกริ้วอยู่เป็นนิตย์..
ซาตานมีความชำนาญพิเศษในการใช้อดีตทำลายชีวิตเรา อาวุธของมันคือการใช้ความรู้สึกผิด  มันต้องการให้เราคิดว่าเราถลำลึกเกินไปแล้วและเพราะอดีตนั้นเรียกกลับคืนมาไม่ได้ ความบาปจะงอกงามดีในดินแห่งความท้อแท้ใจ การทำผิดอย่างหนึ่งจะนำไปสู่ความผิดอีกอย่างหนึ่งได้ง่าย นิสัยบาปมีผลกระทบในลักษณะของโดมิโน ถ้าเราทำบาปครั้งหนึ่ง เราก็จะทำอีกเรื่อยๆเท่าที่อยากทำ ด้วยเหตุนี้คริสเตียนบางคนจึงถามว่า พระเจ้าจะทรงเปลี่ยนแปลงพวกเราได้หรือ? พวกเขาเชื่อว่าในอนาคตชีวิตก็ไม่แตกต่างไปกว่านี้เนื่องจากอดีตของพวกเขานั่นเอง
              นักเทศน์ชาวสก๊อต เจมส์ สทอลเกอร์ เขียนไว้ว่า จอมมุสาที่ยิ่งใหญ่มีคำโกหกอยู่ 2 อย่างที่พันเราไว้ถึง 2 ชั้นด้วยกัน ชั้นแรก ก่อนที่เราจะล้มลง มันจะบอกเราว่า ล้มเพียงครั้งเดียวไม่เป็นไรหรอก มันไม่สำคัญสักเท่าไร เราก็ลุกขึ้นยืนใหม่ได้ ชั้นที่ 2 หลังจากที่เราล้มลงแล้ว มันก็จะบอกเราว่าหมดหวังแล้วล่ะ เราจมอยู่ในบาปแล้ว ไม่จำเป็นต้องพยายามลุกขึ้นอีกหรอกท่านได้อธิบายต่อว่า ความคิดทั้ง 2 อย่างนี้ผิด เพราะการทำบาปเพียงครั้งเดียว การล้มลงเพียงครั้งเดียวจะทำให้เราสูญเสียบางสิ่งที่ไม่อาจฟื้นฟูกลับคืนมาได้  แต่ถ้าเราล้มลงไปแล้ว เราไม่ควรยอมรับการโกหกครั้งที่ 2  คือจมอยู่ในบาป ลุกขึ้นไม่ได้แล้ว
               เราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้  พระเจ้าทรงเสนอสิ่งมีค่า 2 อย่างให้คือ  (1) การให้อภัยที่แท้จริง การชำระความบาปทั้งหมดของเราในอดีต ปัจจุบัน อนาคต  และ (2) ความมั่นใจว่า อดีตของเราไม่จำเป็นต้องควบคุมอนาคต วงจรบาปถูกทำลายลงได้ เราก็สามารถลุกขึ้นใหม่ได้
              พระสัญญาของพระเจ้าที่มีต่อชนชาติ(อิสราเอล)ที่เต็มด้วยการล่วงละเมิด การหลอกลวง และความเสื่อมทรามทางเพศ พระเจ้าตรัสว่า มาเถิด  ให้เราสู้ความกัน  ถึงบาปของเจ้าเหมือนสีแดงเข้ม  ก็จะขาวอย่างหิมะ  ถึงมันจะแดงอย่างผ้าแดง  ก็จะกลายเป็นอย่างขนแกะ” (อสย. 1:18)
              บางครั้งจิตสำนึกอาจทำให้เรามีปัญหา มันจะ ทบทวนบาปในอดีตของเราอย่างละเอียดยิบ หรือความรู้สึกที่คลุมเครือ เพื่อตอกย้ำว่าเราทำมันพังอีกแล้ว   การดำเนินชีวิตด้วยความรู้สึกผิดก็เหมือนกับการพยายามขับรถทั้งๆที่ติดเบรคอยู่ ก่อให้เกิดผลร้ายแรงตามมาหลายประการ
                     - โดยทำให้เกิดความหดหู่กลุ้มใจ หมดหวัง หมดค่าไม่มีประโยชน์ที่จะดำเนินชีวิตที่เกิดผล  ก้าวหน้าในความเชื่อ
                     -  ทำให้เป็นสาเหตุของความเจ็บป่วยทางกาย
                     -  ทำให้ขาดความเชื่อในพระเจ้า
                     -  ทำให้ลงโทษตัวเอง  ทำร้ายตนเอง
                     -  ทำให้เราต้องพยายามทำความดี   แต่การทำความดี ไม่เคยลบล้างความรู้สึกผิดออกไป  กิจกรรมที่ดีสามารถกดความรู้สึกผิดของเราได้ ช่วยให้เราปฏิเสธมัน หรือ ทำให้จิตสำนึกผิดชอบของเราดีขึ้นได้ระดับหนึ่ง หรือระยะหนึ่ง แต่ไม่ช้าความรู้สึกผิดนั้นจะปรากฏออกมาในรูปแบบอื่น    แต่ขอบคุณพระเจ้า ที่พระองค์ไม่ทรงทิ้งเราไว้ให้ปราศจากความหวัง
              น้ำพระทัยพระเจ้าสำหรับเราคือ ให้เราเป็นอิสระจากความรู้สึกผิดทุกรูปแบบ แน่นอนที่พระเจ้าไม่มีวันทำอะไรที่คาดไม่ถึงโดยไม่ทรงจัดเตรียม
-         คุณจำเป็นต้องยกโทษให้ตัวเอง และตระหนักว่า พระเจ้าไม่ปรารถนาให้เราลงโทษตัวเอง
-         ตระหนักว่าการรักษาโรคบาปของพระเจ้านั้นได้เสร็จสมบูรณ์แล้วในพระคริสต์  พระเจ้าได้ทรงทราบถึงความรู้สึก ความท้อแท้ ความล้มเหลวทั้งหมดของเราล่วงหน้าแล้ว การตายของพระคริสต์บนกางเขนได้เป็นเครื่องถวายบูชาไถ่ความบาปทั้งหมดของเรา ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต  ความบาปทุกอย่างที่เราทำนั้นได้ถูกจ่ายราคาไปหมดแล้ว

              สำหรับพระเจ้า การให้อภัยไม่ได้เป็นเรื่องยาก พระองค์ไม่เสียพระทัยในการประทานโอกาสให้แก่คุณ (ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม)  พระเจ้าทรงต้องการให้คุณยอมรับโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย
   ผู้ที่ไม่รู้จักยกโทษให้ตนเอง  และการอภัยโทษจากพระเจ้า  เขาย่อมจะไม่สามารถยกโทษให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

             มีคนหนึ่ง (คนที่ไม่เชื่อพระเจ้า) ได้ ถามบิลลี่ เกรแฮม  ว่า ถ้าฮิตเลอร์ผู้ที่ได้ฆ่าชาวยิวเป็นจำนวนมากต้อนรับพระคริสต์บนเตียงนอนขณะรอความตาย เขาจะได้ไปสวรรค์ไหม ในขณะที่บางคนเป็นคนดีแต่ต่อต้านพระคริสต์ต้องตกนรกอย่างนั้นหรือนี่เป็นคำถามลวง เจตนาเพื่อจะทำให้พระกิตติคุณกลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะเยาะ แต่คำตอบคือ ใช่  ถ้าฮิตเลอร์ต้อนรับพระคริสต์ พระเจ้าจะทรงยกโทษให้เขาทั้งหมด เพราะความตายของพระคริสต์ได้รวมเอาความบาปของฮิตเลอร์ไว้แล้ว  พระเจ้าทรงให้คุณค่าแก่พระคริสต์มากจนกระทั่งพระองค์ทรงยอมรับฮิตเลอร์ไว้ด้วยความดีของพระคริสต์ แต่พระองค์ไม่ทรงยอมรับคนที่ดีที่สุดที่ปราศจากการไถ่ของพระคริสต์ ลองนึกภาพความบาปที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่คุณจะจินตนาการได้ ไม่ว่าจะเป็นความบาปของคุณ  หรือของใครก็ตามที่ทำให้คุณเจ็บปวดยิ่งนักในเวลาที่ผ่านมาคุณไม่สามารถลืมมันได้   พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อบาปเช่นนั้นด้วย
              เสียงร้องจากกางเขนว่า สำเร็จแล้ว  ในคำกรีก เป็นคำเดียวกับ  telelestai   เป็นคำที่ใช้ในการทำธุรกรรม เมื่อเขียนคำนี้ทับลงไปบนใบเรียกเก็บเงินจะหมายถึง  จ่ายหมดแล้ว เช่นเดียวกับการทำงานของเครื่องคิดเลข เมื่อเรากดตัวเลขผิดพลาด เราก็สามารถกดแป้น ลบทิ้งข้อมูลทั้งหมดจะถูกลบทิ้งไป เราก็จะเริ่มกดตัวเลขใหม่โดยไม่ต้องกลับไปแก้ข้อผิดพลาดครั้งก่อน เพราะว่าข้อมูลเก่าได้หายไปหมดแล้ว
              ความตายของพระคริสต์ได้จ่ายราคาความบาปของเราจนหมดสิ้นแล้ว    เมื่อพระเจ้าทรงยกโทษให้ พระองค์ไม่มีวันนำมันกลับมาต่อสู้กับเราอีก  ความบาปที่สารภาพไปเมื่อวานนี้จะไม่เป็นอุปสรรคระหว่างเรากับพระเจ้า  เว้นแต่เราจะปฏิเสธไม่ยอมรับการยกโทษของพระองค์หรือเกิดความสงสัย     เราไม่จำเป็นต้องสารภาพบาปเดิมเป็นครั้งที่สอง  แต่ถ้าเราทำบาปเดิมอีกเราต้องสารภาพอีก เพื่อฟื้นฟูการสามัคคีธรรมกับพระเจ้า   การที่คนเราย้อนกลับมาสารภาพบาปเดิมอยู่ตลอดเวลา อาจเป็นไปได้ว่าเขาไม่เคยมีประสบการณ์ในการได้รับพระคุณพระเจ้าและการยกโทษจากบุคคลอื่นมาก่อน
              แต่ไม่ว่าสาเหตุนั้นจะเป็นเช่นไร ซาตานก็ได้ชัยชนะไปแล้ว มันยินดีในการทำให้ผู้เชื่อสารภาพบาปเดิมอีกครั้ง   เราจะติดกับโดยความไม่เชื่อในตัวเองและตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของตัวเอง ผลลัพธ์ก็คือ ไม่มีความรัก ความชื่นชมยินดี หรือสันติสุข เราไม่ควรนั่งอยู่บนที่นั่งแห่ง ความไม่มั่นใจในการยกโทษให้ ซึ่งเต็มไปด้วยธรรมิกชนที่เป็นอัมพาตฝ่ายจิตวิญญาณนั่งเรียงรายกันอยู่
              เราจะหลีกเลี่ยงกับดักนี้ได้โดยการนมัสการพระเจ้า สรรเสริญและขอบคุณพระเจ้าสำหรับการอภัยโทษของพระองค์ ท่องจำ สดุดี บทที่32 และ 103  เราต้องเรียนรู้จักการดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ ไม่ใช่อารมณ์  พระเจ้าทรงสัญญาเรื่องการชำระเท่าๆกับการให้อภัย 1 ยอห์น 1:9 ถ้า เรา สารภาพ บาป ของ เรา พระองค์ ทรง สัตย์ซื่อ และ เที่ยงธรรม ก็ จะ ทรง โปรด ยก บาป ของ เรา และ จะ ทรง ชำระ เรา ให้ พ้น จาก การ อธรรม ทั้งสิ้น  การให้อภัยมีความหมายว่าเราสามารถยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้าได้อย่างถูกต้อง การชำระเป็นงานเพิ่มเติมของพระเจ้าที่จะทำให้เราสะอาดจริงๆ
              พระคุณของพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่กว่าบาปของเรา ไม่ว่าความผิดนั้นจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม  ถ้าพระเจ้าทรงลืมอดีตของเราได้ แล้วทำไมเราจะลืมไม่ได้ล่ะ พระองค์ทรงเหวี่ยงบาปของเราลงไปที่ก้นทะเลลึก

No comments:

Post a Comment