Thursday, September 17, 2009

แค่ผลักดัน

แค่ผลักดัน

ชายคนหนึ่งกำลังนอนหลับอยู่ในบ้านหลังน้อยของเขา ทันใดนั้นห้องของเขาก็
สว่างวูบขึ้นมา และพระเจ้าทรงปรากฏกับเขา พระองค์ทรงตรัสกับเขาว่า
ทรงมีพระราชกิจที่มอบหมายให้เขาทำ
โดยทรงสำแดงก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่หน้าบ้านของเขานั้น
พระองค์ทรงให้เขาผลักดันก้อนหินนั้นออกไปด้วยเต็มกำลังของเขา
ชายคนนั้นได้ทำตามวันแล้ววันเล่า หลายปีตั้งแต่อาทิตย์ขึ้นจนอาทิตย์ตก
เขาได้ตรากตรำผลักดันก้อนหินอันเยือกเย็นนั้นด้วยไหล่ของเขา
อย่างสุดกำลังและสัตย์ซื่อแต่มันก็ไม่ขยับเขยื้อนเลย
ทุกค่ำคืนเขาอิดโรยกลับมายังบ้านหลังน้อยด้วยความเจ็บปวด
รู้สึกเหมือนว่า...เขาได้ใช้เวลาทั้งวันอย่างสูญเปล่า
เมื่อเขากำลังจะหมดกำลังใจอยู่นั้น ศัตรูของเขา(มารซาตาน)
ก็เข้ามาใส่ความคิดในใจที่อ่อนล้าของชายคนนั้น(มันทำแบบนี้เป็นประจำทุกครั้ง)
"เจ้าได้ทนผลักดันก้อนหินนี้มานานแล้วนะ แล้วมันก็ไม่เคลื่อนไปไหนเลยแม้แต่นิด”
มันสร้างภาพให้เห็นว่างานที่เขาทำ มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และเขากำลังล้มเหลว
ด้วยความคิดแบบนี้ทำให้เขาท้อถอยและหมดกำลังใจ ความมั่นใจก็ลดถอยลง
มารซาตานกล่าวว่า “ทำไมต้องมาทำร้ายตัวเองแบบนี้ด้วยนะ?
เอาเป็นว่าใช้เวลากับมันเพียงเล็กน้อยและใช้กำลังนิดหน่อย แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วนะ”
และนั่นก็ตรงกับที่ชายผู้อ่อนล้าผู้นี้กำลังอยากจะทำ
แต่เขากลับตัดสินใจที่จะเอาเรื่องนี้อธิษฐานร้องทูลกับพระเจ้า
โดยบอกเรื่องความคิดที่ทำให้เขารู้สึกยากลำบากใจนี้กับพระองค์
“พระเจ้า ข้าพระองค์ได้ใช้สุดแรงของข้าพระองค์ในงานรับใช้
ที่พระองค์มอบหมายให้เป็นเวลายาวนานแล้ว
จนถึงเวลานี้ข้าพระองค์ยังไม่เห็นว่าหินก้อนนี้เคลื่อนไปได้สักมิลลิเมตรเดียว
มีอะไรที่ผิดพลาดหรือเปล่า ทำไมข้าพระองค์จึงล้มเหลว?”
พระเจ้าทรงตอบเขาด้วยความรักและเห็นอกเห็นใจว่า
“ สหายเอ๋ย เมื่อเราขอให้เจ้ารับใช้เราและเจ้ายอมทำ
เราได้บอกให้เจ้าใช้แรงสุดกำลังในการผลักดันก้อนหินนั้น ซึ่งเจ้าก็ได้ทำแล้ว”
“ไม่ได้มีสักครั้งที่เราเอ่ยว่า เราคาดหวังว่าก้อนหินนั้นมันจะเคลื่อนออกไป
งานของเจ้าคือ แค่ผลักดันก้อนหินนั้น แต่ตอนนี้เจ้าเข้ามาหาเราด้วยความคิดของเจ้าว่า
เจ้าล้มเหลวสูญเปล่ากับการที่เจ้าได้ใช้กำลังไปนั้น”
“แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆหรือ ลองมองดูตัวเจ้าเองสิ แขนและหลังของเจ้ามี
กล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง มือของเจ้าก็หนาและแกร่งขึ้นจากแรงกดอย่างสม่ำเสมอ
ขาของเจ้าก็ล่ำสันและแข็งแรง” “ในทางตรงกันข้ามกับที่เจ้าคิด
เจ้าได้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมาก
และความสามารถของเจ้าตอนนี้ก็มากกว่าที่เจ้าเคยมี
จริงอยู่ที่เจ้าไม่สามารถเคลื่อนก้อนหินนั้นได้เลย แต่การเรียกของเรา
คือการให้เจ้าเชื่อฟัง ผลักดัน ให้ใช้ความเชื่อ และไว้วางใจในสติปัญญาของเรา
ซึ่งเจ้าก็ได้ทำไปแล้ว
ตอนนี้เราผู้เป็นสหายของเจ้า จะเคลื่อนหินผานั้นเอง”
ในช่วงเวลาที่เราได้ยินพระสุรเสียงจากพระเจ้า
เรามีแนวโน้มที่จะใช้สติปัญญาที่จะพยายามตีความว่า พระองค์มีพระประสงค์อะไร
แต่แท้จริงแล้วพระองค์ทรงปรารถนาเพียงที่จะให้เราเชื่อฟังและใช้ความเชื่ออย่างง่ายๆ

***ทั้งหมดนี้หมายความว่า
การใช้ความเชื่อนั้นสามารถเคลื่อนภูเขาได้
แต่เราต้องรู้ว่า ผู้ที่เคลื่อนภูเขาที่แท้จริงคือพระเจ้า
เมื่อไรก็ตามที่ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่ถูกต้อง เราต้อง P.U.S.H.
เมื่อไรก็ตามที่งานทำให้คุณรู้สึกอ่อนล้า เราต้อง P.U.S.H.
เมื่อไรก็ตามที่คนไม่ทำอย่างที่เราคิดว่าเขาควรจะทำ เราต้อง P.U.S.H.
เมื่อไรก็ตามที่คุณไม่มีเงินเลย แต่ค่าใช้จ่ายต่างๆก็รอการชำระอยู่ เราต้อง P.U.S.H.
เมื่อไรก็ตามที่คนไม่เข้าใจคุณ เราต้อง P.U.S.H.
**P = Pray**
**U = Until**
**S = Something**
**H = Happens**


**JUST PUSH**

**A man was sleeping one night in his cabin when suddenly his room filled with light, and God appeared. The Lord told the man he had work for him to do, and showed him a large rock in front of his cabin. The Lord explained that the man was to push against the rock with all his might...**

**So, this the man did, day after day. For many years he toiled from sunup to sundown, his shoulders set squarely against the cold, massive surface of the unmoving rock, pushing with all his might!**

**Each night the man returned to his cabin sore and worn out, feeling that his whole day had been spent in vain. Since the man was showing discouragement, the Adversary (Satan) decided to enter the picture by placing thoughts into the man's weary mind: (He will do it every time!)**

**You have been pushing against that rock for a long time and it hasn't moved." Thus, he gave the man the impression that the task was impossible and that he was a failure. These thoughts discouraged and disheartened the man.**

**Satan said, "Why kill yourself over this? Just put in your time, giving just the minimum effort; and that will be good enough."**

**That's what the weary man planned to do, but decided to make it a matter of prayer and to take his troubled thoughts to the Lord.**

**"Lord," he said, "I have labored long and hard in Your Service, putting all my strength to do that which you have asked. Yet, after all this time, I have not even budged that rock by half a millimeter. What is wrong? Why am I failing?"**

**The Lord responded compassionately, "My friend, when I asked you to serve Me and you accepted, I told you that your task was to push against the rock with all of your strength, which you have done.**

**Never once did I mention to you that I expected you to move it. Your task was to push. And now you come to Me with your strength spent, thinking that you have failed.**

**But, is that really so? Look at yourself. Your arms are strong and muscled, your back shiny and brown; your hands are callused from constant pressure, your legs have become massive and hard.**

**Through opposition you have grown much, and your abilities now surpass that which you used to have. True, you haven't moved the rock. But your calling was to be obedient and to push and to exercise your faith and trust in My wisdom. That you have done. Now I, my friend, will move the rock."**

**At times, when we hear a word from God, we tend to use our own intellect to decipher what He wants, when actually what God wants is just simple obedience and faith in Him.**

**By all means, exercise the faith that moves mountains, but know that it is still God who moves the mountains.**

**When everything seems to go wrong....... ......... ......... ...Just P.U.S.H.**

**When the job gets you down........ ......... ......... .Just P.U.S.H.**

**When people don't do as you think they should...... ......... .Just P.U.S.H.**

**When your money is "gone" and the bills are due......... ....Just P.U.S.H.**

**When people just don't understand you......... ......... .......Just P.U.S.H.**

**P = Pray**
**U = Until**
**S = Something**
**H = Happens**

**"Though no one can go back and make a brand new start, anyone can start from now and make a brand new ending."**

**Friends are quiet angels who lift us to our feet when our wings have trouble remembering how to fly. May God Bless You.**

ข้อสอบวิชาชีววิทยา (พร้อมเฉลยและคำอธิบาย)

1. โครงสร้างใดคือร่องรอยของช่องเหงือกในระยะเอ็มบริโอของคน
1. ช่องหู
2.ท่อยูสเตเชียน
3. ปอด
4.คอหอย

คำตอบที่ถูกต้องคือ 2
คำอธิบาย : การศึกษาเอ็มบริโอ (Embryo) ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง (Vertebrate) พบว่า สัตว์บางจำพวกโครงสร้างบางอย่างในระยะเอ็มบริโอจะคงอยู่ต่อไป แต่ในบางจำพวกโครงสร้างนั้นก็จะหายไปหรือลดรูป เช่น ช่องเหงือก (Gill slit) ในระยะเอ็มบริโอของปลา จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นช่องเปิดบริเวณช่องแก้มทั้งสองข้างเมื่อเป็นตัวเต็มวัย ส่วนในสัตว์มีกระดูกสันหลังชั้นสูง ช่องเหงือกนี้จะหายไป แต่ในคนยังมีร่องรอยเหลืออยู่ นั่นคือ ท่อยูสเตเชียน (Eustachian Tube) ซึ่งเป็นท่อเชื่อมระหว่างหูชั้นกลางกับช่วงคอส่วนบน และมีหน้าที่ปรับความดันอากาศในแก้วหูทั้งสองข้าง

2. สารใดที่ไม่ใช่เอนไซม์ย่อยอาหาร
1. ทริปซิน
2.ไคโมทริปซิน
3. เอนเทอโรไคเนส
4.คาร์บอกซิเพปทิเดส

คำตอบที่ถูกต้องคือ 3
คำอธิบาย : เอนเทอโรไคเนส (Enterokinase หรือ Enteropeptidase) เป็นเอนไซม์จากเซลล์บุผนังลำไส้เล็ก ไม่ได้ทำหน้าที่ย่อยอาหาร แต่ทำหน้าที่เปลี่ยนทริปซิโนเจนให้เป็นทริปซิน
3. เซลล์ในอวัยวะใดมีกิจกรรมของเอนไซม์ในวัฏจักรเครบส์สูงที่สุด
1. กล้ามเนื้อ
2. สมอง
3. ตับ
4.ไขกระดูก

คำตอบที่ถูกต้องคือ 2
คำอธิบาย : เซลล์สมองมีกิจกรรมของเอนไซม์ในวัฏจักรเครบส์สูงที่สุด เนื่องจากต้องเป็นเซลล์ที่มีไมโทคอนเดรีย (Mitochondria) มาก และ เซลล์สมอง ก็มีไมโทคอนเดรียประมาณ 4,000-5,000 อัน/เซลล์ ทั้งนี้ วัฏจักรเครบส์ (Kreb's cycle) ของปฏิกิริยาการหายใจระดับเซลล์เกิดขึ้นในของเหลว (Matrix) ของไมโทคอนเดรีย

4. ความผิดปกติของออร์แกเนลล์ใดอาจมีผลทำให้การสร้างผนังเซลล์ผิดปกติได้
1. คลอโรพลาสต์
2.ไมโทคอนเดรีย
3. กอลจิคอมเพลกซ์
4.ไลโซโซม

คำตอบที่ถูกต้องคือ 3
คำอธิบาย :กอลจิคอมเพลกซ์ (Golgi complex) ในเซลล์พืชทำหน้าที่สร้างเซลลูโลสในการสร้างเซลล์เพลท (Cell plate) ขณะที่มีการแบ่งเซลล์

5. ออร์แกเนลล์ในข้อใดเกี่ยวข้องกับการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์เพิ่มเติม
ก. ไลโซโซม
ข. ไมโทคอนเดรีย
ค. กอลจิคอมเพลกซ์
ง. ร่างแหเอนโดพลาซึม
1. ข.
2. ค.
3. ง.
4.ค และ ง.

คำตอบที่ถูกต้องคือ 4
คำอธิบาย :ร่างแหเอนโดพลาซึม (Endoplasmic reticulum) และ กอลจิคอมเพลกซ์ (Golgi complex) เป็นออร์แกเนลล์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์เพิ่มเติมทั้งในเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ กล่าวคือ ไขมันที่เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์จะสร้างขึ้นที่ร่างแหเอนโดพลาซึมก่อนแล้วนำไปเก็บในกอลจิคอมเพลกซ์ จากนั้นจึงลำเลียงไปที่เยื่อหุ้มเซลล์

6. เมื่อร่างกายเป็นไข้ มีอุณภูมิสูงผิดปกติ เนื่องมาจากการทำงานของสมองส่วนใด
1.ซีรีบรัม
2.ซีรีเบลลัม
3.ไฮโพธาลามัส
4.ธาลามัส

คำตอบที่ถูกต้องคือ 3
คำอธิบาย :ไฮโพธาลามัส (Hypothalamus) มีหน้าที่เป็นศูนย์ควบคุมอุณภูมิของร่างกาย

7.สัตว์บกชนิดหนึ่งมีโครงร่างแข็งภายนอกลำตัว เทรเคีย และลำตัวเป็นปล้อง น่าจะมีโครงสร้างในข้อใดอีก
1. ปีก
2.ขา 8 ขา
3. เนฟริเดียม
4.รยางค์ไม่เป็นปล้อง

คำตอบที่ถูกต้องคือ 1
คำอธิบาย :สัตว์บกที่มีโครงร่างแข็งภายนอกลำตัว แลกเปลี่ยนแก๊สโดยใช้ระบบเทรเคีย และลำตัวเป็นปล้อง เป็นสัตว์จำพวกแมลง Class Insecta แมลงส่วนใหญ่มีปีกที่ปล้องอก

7. ข้อใดเกิดขึ้นเมื่อขึ้นไปบนยอดเขาสูง
ก. อัตราการหายใจและการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น
ข. สร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น
ค. เลือดไหลเวียนในเส้นเลือดเร็วขึ้น
1.ก.
2.ก. และ ข.
3.ข. และ ค.
4.ก., ข. และ ค.

คำตอบที่ถูกต้องคือ 4
คำอธิบาย :เนื่องจากบนยอดเขาสูงความหนาแน่นของอากาศจะลดลง ทำให้ปริมาณออกซิเจนในร่างกายน้อยลง ร่างกายจึงมีการปรับตัวทางด้านสรีระเพื่อเพิ่มการสร้างเม็ดเลือดแดงเมื่อปริมาณเม็ดเลือดมากขึ้นก็จะเข้าจับกับออกซิเจนได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายคือจะเกิดการไหลเวียนของเลือดดีขึ้นแสดงว่าอัตราการหายใจและการเต้นของหัวใจก็จะเพิ่มขึ้นด้วย

8. เมื่อมีความเข้มข้นของกรดคาร์บอนิกในเลือดสูงขึ้น ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ก. เพิ่มการหายใจ
ข. ขับ H+ ออกเพิ่มขึ้นทางปัสสาวะ
ค. ขับ HCO3- ออกทางปัสสาวะ
1. ก.
2.ก. และ ข.
3. ข. และ ค.
4.ก., ข. และ ค.
คำตอบที่ถูกต้องคือ 2
คำอธิบาย : เมื่อความเข้มข้นของกรดคาร์บอนิกและไฮโดรเจนไอออนสูงขึ้น ร่างกายจะเพิ่มอัตราการหายใจมากขึ้น ส่งผลให้ไฮโดรเจนคาร์บอเนตไอออน (HCO3-) และไฮโดรเจนไอออน (H+) รวมตัวกันเป็นกรดคาร์บอนิก (H2CO3) แล้วสลายตัวเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และน้ำ (H2O) ภายในเซลล์เม็ดเลือดแดง ดังนั้น ความหนาแน่นของคาร์บอนไดออกไซด์ในหลอดเลือดฝอยจึงสูงกว่าในถุงลมปอด มันจึงเกิดการแพร่ของคาร์บอนไดออกไซด์จากหลอดเลือดฝอยเข้าสู่ถุงลมของปอด (Lung) แล้วขับออกนอกร่างกายด้วยการหายใจออก ส่วนไฮโดรเจนไอออนก็จะถูกดูดเข้าสู่ไต (Kidney) เพื่อขับออกพร้อมปัสสาวะ

9.ในกระบวนการหายใจแบบใช้ออกซิเจนของกลูโคส 1 โมเลกุล สามารถผลิต ATP ในไมโทคอนเดรียคิดเป็นกี่เท่าของปริมาณ ATP ที่ผลิตได้จากไซโทพลาซึม
1. 16 เท่า
2.17 เท่า
3. 16-17 เท่า
4.17-18 เท่า
คำตอบที่ถูกต้องคือ 4
คำอธิบาย :ปริมาณ ATP ที่ผลิตได้ในไมโทคอนเดรียจากกระบวนการหายใจแบบใช้ออกซิเจนของกลูโคส 1 โมเลกุล คือ จากปฏิกิริยาขั้นวัฏจักรเครบส์ผลิตได้ 2 ATP และจากปฏิกิริยาขั้นการถ่ายทอดอิเล็กตรอน (ETS) ผลิตได้ 32-34 ATP
ดังนั้น ปริมาณ ATP ที่ผลิตได้ในไมโทคอนเดรียรวมเป็น 34-36 ATP หรือประมาณ 17-18 เท่าของปริมาณ ATP ที่ผลิตได้จากไซโทพลาซึม (ATP ที่ผลิตได้จากไซโทพลาซึม 2 ATP จากปฏิกิริยาขั้นไกลโคลิซิส )

10.นายดำเคยหายใจเข้าปกติได้ปริมาตรอากาศ 500 มิลลิลิตรต่อครั้ง แต่ระยะนี้เขาหายใจเข้าได้เพียง 400 มิลลิลิตร อาจเนื่องมาจากสาเหตุของการทำงานของกล้ามเนื้อกะบังลมในข้อใด
1. หดตัวมากขึ้นกว่าเดิม
2.หดตัวน้อยลงกว่าเดิม
3. คลายตัวมากขึ้นกว่าเดิม
4.คลายตัวน้อยลงกว่าเดิม

คำตอบที่ถูกต้องคือ 2
คำอธิบาย :กะบังลม (Diaphragm) เป็นแผ่นกล้ามเนื้อที่มีลักษณะโค้งนูนคล้ายรูปโดมคั่นระหว่างช่องอกกับช่องท้อง มีส่วนช่วยในการเปลี่ยนแปลงปริมาตรของช่องอก กล่าวคือ เมื่อกะบังลมหดตัวจะทำให้ปริมาตรในช่องอกเพิ่มขึ้น ถ้ากะบังลมหดตัวน้อยลงกว่าปกติทำให้ปริมาตรในช่องอกลดลง

11. สารละลายในข้อใดเมื่อเข้าสู่ทางเดินอาหาร จะมีผลยับยั้งการย่อยสารอาหารโปรตีนในกระเพาะอาหาร
ก. Na2CO3
ข. NaHCO3
ค. Na2HPO4
ง. NaH2PO4
1. ก และ ข.
2.ข และ ค.
3. ค และ ง.
4.ก และ ง.

คำตอบที่ถูกต้องคือ 1
คำอธิบาย :การย่อยสารอาหารประเภทโปรตีนในกระเพาะอาหาร เอนไซม์จะทำงานได้ดีที่ pH เป็นกรด (ประมาณ 1.25-2) ดังนั้น ถ้ามีสาร Na2CO3 หรือ NaHCO3 ซึ่งมี pH เป็นเบสสูง ผ่านเข้าไปในกระเพาะอาหารจะมีผลไปยับยั้งการย่อยสารอาหารประเภทโปรตีน

12. การแบ่งนิวเคลียสระยะใดสอดคล้องตามกฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระของเมนเดล
1. เมทาเฟส 1
2.แอนาเฟส 1
3. เมทาเฟส 2
4.แอนาเฟส 2

คำตอบที่ถูกต้องคือ 2
คำอธิบาย :ระยะแอนาเฟส 1 (Anaphase I) โครโมโซมคู่เหมือน (Homologous chromosome) ที่ประกอบกันเป็นไบวาเลนท์ (Bivalent) จะแยกตัวออกจากกันในทิศทางตรงข้ามของเซลล์ โดยโครโมโซมแต่ละแท่งยังประกอบด้วยโครมาทิด 2 เส้น ซึ่งจับยึดกันที่เซนโทรเมียร์ เรียกว่า ไดแอด (Diad) การแยกตัวของโครโมโซมในแต่ละไบวาเลนท์เป็นไปแบบอิสระ ทำให้เกิดความหลากหลายของข้อมูลทางพันธุกรรมในการถ่ายทอดจากพ่อแม่ไปสู่ลูก ซึ่งสอดคล้องกับกฎการแยกยีนเพื่อรวมตัวใหม่อย่างอิสระ (Law of independent assortment of gene) ของเมนเดล

13. การรณรงค์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มารับวัคซีนโปลิโอเพื่อให้เด็กสร้างภูมิคุ้มกันแบบใด
ก. ภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด
ข. ภูมิคุ้มกันจำเพาะ
ค. ภูมิคุ้มกันก่อเอง
ง. ภูมิคุ้มกันรับมา
1. ก และ ข.
2.ข และ ค.
3. ค และ ง.
4.ก และ ง.

คำตอบที่ถูกต้องคือ 2
คำอธิบาย : การฉีดวัคซีน (Vaccine) เพื่อป้องกันโรคโปลิโอ (Poliomyelitis) เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา หรือเรียกว่า ภูมิคุ้มกันก่อเอง (Active immunity) หมายถึง ภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเอง โดยเกิดขึ้นภายหลังการติดเชื้อและการฉีดวัคซีน เมื่อเราฉีดวัคซีนเข้าสู่ร่างกายมันจะเป็นแอนติเจนไปกระตุ้นร่างกายให้สร้างแอนติบอดีขึ้นมาต่อต้าน ซึ่งจะทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคชนิดที่ฉีดเข้าไป

14. กิจกรรมข้อใดเกี่ยวข้องกับเซลล์วิลลัสของลำไส้เล็ก
ก. ผลิตเอนไซม์อะไมเลส
ข. ย่อยไดเพปไทด์ให้เป็นกรดอะมิโน
ค. สังเคราะห์ไตรกลีเซอไรด์จากกลีเซอรอลและกรดไขมันที่ดูดซึมมา
1. ก และ ข.
2.ข และ ค.
3. ก และ ค.
4.ก, ข. และ ค.

คำตอบที่ถูกต้องคือ 2
คำอธิบาย :การย่อยไดเพปไทด์ให้เป็นกรดอะมิโนโดย เอนไซม์ Dipeptidase และการสังเคราะห์ไตรกลีเซอไรด์จากกลีเซอรอลและกรดไขมันที่ดูดซึมมา เกิดขึ้นที่เซลล์วิลลัสของลำไส้เล็ก

15. จากคำพังเพย "ดินดีเพราะป่าปก หญ้ารกเพราะเสือยัง" มีความเกี่ยวข้องกับแนวความคิดทางชีววิทยาในข้อใด
1. ห่วงโซ่อาหาร
2. ภาวะที่พึ่งพากัน
3. การถ่ายทอดพลังงาน
4.สังคมของสิ่งมีชีวิต

คำตอบที่ถูกต้องคือ 2
คำอธิบาย : คำพังเพย "ดินดีเพราะป่าปก หญ้ารกเพราะเสือยัง" เกี่ยวข้องกับเรื่องการพึ่งพาอาศัยกัน เนื่องจากดินดีเพราะมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ และการที่มีหญ้ารกก็เป็นที่อยู่ของเสือได้ดี

16. อวัยวะขับถ่ายของสัตว์ในข้อใด ที่สามารถทำหน้าที่กรองและดูดสารกลับคล้ายกับไต
ก. พลานาเรีย
ข. ไส้เดือนดิน
ค. ผีเสื้อ
1. ก
2.ข
3. ก และ ค.
4.ข และ ค.

คำตอบที่ถูกต้องคือ 2
คำอธิบาย:ไตของคน ประกอบด้วยหน่วยไต (Nephron) ทำหน้าที่กรองของเสียจากเลือดและดูดกลับสารที่เป็นประโยชน์คล้ายกับเนฟริเดียม (Nephridium) ของไส้เดือนดิน
17. น้ำมันพืชในข้อใดไม่พบกรดไลโนเลอิกซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย
1. น้ำมันรำ
2.น้ำมันถั่วเหลือง
3.น้ำมันข้าวโพด
4.น้ำมันมะพร้าว

คำตอบที่ถูกต้องคือ 4
คำอธิบาย : จะไม่พบกรดไลโนเลอิกซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายในน้ำมันมะพร้าว เนื่องจาก กรดไลโนเลอิก (Linoleic Acid) เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย (Essential Fatty Acids : EFA) และเป็นกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว ซึ่งหมายความว่า เป็นสารอาหารที่ร่างกายขาดไม่ได้ และผลิตเองไม่ได้ จึงต้องได้รับจากแหล่งภายนอกร่างกายหรือจากอาหารเสริมเท่านั้น ส่วนใหญ่ได้มาจากน้ำมันพืช เช่น น้ำมันข้าวโพด น้ำมันรำ น้ำมันงา น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันเมล็ดทานตะวัน เป็นต้น

18. อวัยวะคู่ใดที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการย่อยอาหารได้ใกล้เคียงกันมากที่สุด
1. ตับ ตับอ่อน
2.ตับ ลำไส้เล็ก
3. ตับอ่อน กระเพาะอาหาร
4.ตับอ่อน ลำไส้เล็ก

คำตอบที่ถูกต้องคือ 4
คำอธิบาย : เอนไซม์จาก ตับอ่อน (Pancreas) และเซลล์ผนังด้านในของลำไส้เล็กตอนต้นที่ต่อกับกระเพาะอาหาร หรือเรียกว่า ดูโอดีนัม (Duodenum) จะถูกส่งไปย่อยอาหารในลำไส้เล็ก จึงอาจกล่าวได้ว่า ตับอ่อนและลำไส้เล็กทำหน้าที่เกี่ยวกับการย่อยอาหารใกล้เคียงกันมากที่สุด

19. ข้อใด ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับคลอโรพลาสต์
ก. มีคลอโรฟีลล์อยู่ที่บริเวณเยื่อหุ้มคลอโรพลาสต์ชั้นใน
ข. ไทลาคอยด์เป็นแหล่งผลิตออกซิเจนและสร้าง ATP
ค. มีระบบแสงกระจายทั่วไป ทั้งในบริเวณเยื่อไทลาคอยด์และเยื่อหุ้มคลอโรพลาสต์
1. ก
2.ก และ ข.
3. ก และ ค.
4.ก, ข. และ ค.

คำตอบที่ถูกต้องคือ 3
คำอธิบาย :คลอโรฟีลล์ เป็นรงควัตุอยู่บนผิวไทลาคอยด์ (Thylakoid)ระบบแสง (Photosystem) กระจายอยู่บริเวณเยื่อไทลาคอยด์

20. เพราะเหตุใดร่างกายจึงต้องการวิตามินในปริมาณที่น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับสารอาหารชนิดอื่นๆ
1. วิตามินไม่มีความสำคัญมากต่อกระบวนการเมแทบอลิซึม
2.ร่างกายสามารถสะสมวิตามินได้จำนวนมาก
3. วิตามินสามารถถูกนำมาใช้ได้อีกหลายครั้ง
4.ร่างกายสามารถสร้างวิตามินบางชนิดได้เอง

คำตอบที่ถูกต้องคือ 4
คำอธิบาย:วิตามิน คือ สารอาหารที่มีสมบัติเป็นสารอินทรีย์ที่จำเป็นต่อร่างกายของสิ่งมีชีวิต และต้องการในปริมาณน้อยๆ (Micronutrient) เป็นมิลลิกรัมหรือไมโครกรัมต่อวัน มีหน้าที่ในกระบวนการเมแทบอลิซึมของร่างกาย โดยเป็นสารตั้งต้นที่จะนำไปสร้างเป็นโคเอนไซม์ (Coenzyme) ซึ่งเป็นปัจจัยร่วม (Cofactor) ของเอนไซม์ ในการเร่งปฏิกิริยาเคมีต่างๆ ในร่างกาย สิ่งมีชีวิตสามารถสังเคราะห์วิตามินบางชนิดได้อย่างเพียงพอในร่างกาย

21. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับโรคขาดวิตามินหรือแร่ธาตุ
ก. การขาดวิตามินไทอามีน ทำให้เกิดโรคปากนกกระจอก
ข. การขาดวิตามินเรตินอล ทำให้มองไม่เห็นในที่สลัว
ค. การขาดแร่ธาตุฟอสฟอรัสทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย
ง. การขาดแมกนีเซียมทำให้กล้ามเนื้อทำงานช้า เบื่ออาหารและซึม
1.ก และ ข
2.ก และ ค
3. ข และ ค
4.ข และ ง

คำตอบที่ถูกต้องคือ 3
คำอธิบาย:เร ตินอล คือ วิตามิน A การขาดทำให้เป็นโรคตาฟาง และการขาดแร่ธาตุฟอสฟอรัส ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย กระดูกเปราะ (ไทอามีน คือ วิตามิน B1 การขาดทำให้เกิดโรคเหน็บชา) ส่วนโรคปากนกกระจอก คือ การขาดวิตามิน B2 (ไรโบฟลาวิน)

22. ข้อใดถูกต้องในขั้นตอนการเจริญของไข่กบ ถ้ากำหนดให้
ก. ปริมาณของไข่แดงมีอิทธิพลต่อแบบแผนการเจริญระยะแรกของสิ่งมีชีวิต
ข. การแบ่งเซลล์ของไซโกตเกิดขึ้นเฉพาะที่ ไม่ตลอดทั่วทั้งไซโกต
ค. ในระยะคลีเวจไม่มีการเปลี่ยนแปลงขนาดเซลล์ แต่มีจำนวนเซลล์เพิ่มมากขึ้น
ง. การเคลื่อนย้ายและการเปลี่ยนแปรสภาพ (differentiation) ของกลุ่มเซลล์ มีผลต่อกระบวนการเกิดเนื้อเยื่อและโครงสร้างของสิ่งมีชีวิต
1.ก, ข และ ค
2.ก, ข และ ง
3.ก, ค และ ง
4.ข, ค และ ง

คำตอบที่ถูกต้องคือ 3
คำอธิบาย:ไข่กบ มีไข่แดงปริมาณปานกลาง ไซโกตเกิดการแบ่งตัวตลอดทั่วทั้งไซโกต (แต่ไม่เท่ากัน) ข้อ ข.จึงไม่ถูกต้อง ส่วนข้ออื่นๆ ถูกต้อง

23. ข้อใดเป็นจริงเกี่ยวกับกระบวนการไกลโคลิซิส (Glycolysis)
ก. มีกระบวนการฟอสฟอริเลชัน (Phosphorylation)
ข. มีการสร้างน้ำตาล 3 คาร์บอน
ค. ไม่มีการสร้าง NADH
ง. เกิดขึ้นได้กับทั้งการหายใจแบบใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจน
1. ก และ ค.
2.ข และ ค.
3.ก, ข. และ ค.
4.ก, ข. และ ง.

คำตอบที่ถูกต้องคือ 4
คำอธิบาย:ไกลโคไลซิส เป็นกระบวนการที่มีการเปลี่ยนกลูโคสที่เป็นสารพลังงานศักย์สูง ให้กลายเป็นสารอินทรีย์ที่มี 3 คาร์บอน เช่น Phosphoglyceraldehyde (น้ำตาลที่มี 3 คาร์บอน) และกรด/เกลือไพรูเวท หรือ PGA (Phosphoglyceric acid) เป็นต้น
คำว่า Phosphorylation หมายถึง ปฏิกิริยาที่มีการเติมหมู่ฟอสเฟต เช่น กระบวนการสังเคราะห์ ATP เป็นต้น ในกระบวนการไกลโคไลซิสจะมีการสร้าง 4 ATP แต่ผลลัพธ์เหลือ 2 ATP
ในเมื่อกลูโคสเป็นสารที่มีพลังงานศักย์สูง แน่นอนจะต้องมีการเปลี่ยนรูปให้อยู่ในรูปที่มีพลังงานศักย์ต่ำ ดังนั้น จึงมีการส่งผ่านพลังงานไปให้ตัวรับอิเล็กตรอนที่เป็นโคเอนไซม์ NAD+

24. ชายวัยกลางคนเป็นโรคที่มีผลทำลายเซลล์ในหลอดสร้างอสุจิ จึงทำให้เกิดความผิดปกติในข้อใด
ก. การสร้างน้ำอสุจิ (Semen)
ข. การสร้างฮอร์โมนเพศชาย
ค. การแสดงลักษณะของเพศชาย
ง. การสร้างตัวอสุจิ
1. ก
2.ง
3.ขและ ค.
4.กและ ง.

คำตอบที่ถูกต้องคือ 4
คำอธิบาย:ถ้าเซลล์ของหลอดสร้างอสุจิ (Seminiferous tubule) ถูกทำลาย จะมีผลโดยตรงต่อการสร้างอสุจิ แต่การสร้างน้ำอสุจิเป็นกระบวนการที่เกิดภายใน Seminal vesicle ไม่ควรจะเกี่ยวข้องกับ Seminiferous tubule
อีกนัยหนึ่งถ้ากรรมการออกข้อสอบมีความประสงค์จะทดสอบว่า ทราบความหมายของซีเมนหรือไม่ว่า Semen เป็นส่วนผสมของ Sperm น้ำและอาหารจาก Seminal vesicle ดังนั้น ถ้าคิดเช่นนี้ควรจะตอบข้อ ก. ด้วย

25.ข้อใดเป็นสมบัติที่คล้ายคลึงกันระหว่างทราเคีย(Trachea)ของแมลงกับบรองคิโอลส์ (Bronchioles) ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
ก. ลำเลียงอากาศเข้าและออกจากร่างกาย
ข. ผนังแข็งแรงเนื่องจากมีแคลเซียม
ค. ไม่มีการแลกเปลี่ยนก๊าซเกิดขึ้นที่บริเวณผิว
ง. อยู่ทางด้านล่างของหลอดอาหาร
1. กและ ข.
2.ขและ ค.
3. ค และ ง.
4.ก และ ค.

คำตอบที่ถูกต้องคือ 1
คำอธิบาย:โครงสร้างที่ใช้ในการลำเลียงก๊าซของแมลง คือ ท่อลม หรือ Trachea อยู่ข้างลำตัวส่วนท้อง เป็นช่องหายใจที่เป็นรูเล็กๆ แตกแขนง จนกลายเป็นหลอดที่มีผนังบางมากแทรกตามเนื้อเยื่อเพื่อแลกเปลี่ยนก๊าซ
โครงสร้างที่ใช้ในการลำเลียงก๊าซของคน คือ หลอดลมฝอย (Bronchiole) อยู่ด้านหน้าของหลอดอาหารและมีกระดูกอ่อนเป็นรูปเกือกม้าเรียงซ้อนกันเป็น ชั้นๆ ที่มีแคลเซียมเป็นองค์ประกอบ หลอดลมฝอยจะติดต่อกับถุงลม เพื่อทำหน้าที่ในการแลกเปลี่ยนก๊าซ

26. ข้อใดเป็นจริงเกี่ยวกับกระบวนการดูดซึมกลับ (Reabsorption) ของหน่วยไต (Nephron) ของสัตว์ชั้นสูง
1. การเคลื่อนที่ของ Na+ จากของเหลวระหว่างเซลล์เข้าสู่หลอดขดส่วนต้น
2. การเคลื่อนที่ของน้ำจากโกลเมอรูลัส (Glomerulus) ผ่านไตออกสู่กระเพาะปัสสาวะ
3. การเคลื่อนที่ของกลูโคสจากหลอมขดส่วนต้นออกสู่ของเหลวระหว่างเซลล์ Complete
4. การเคลื่อนที่ของยูเรียจากของเหลวระหว่างเซลล์เข้าสู่หลอดขดส่วนท้าย

คำตอบที่ถูกต้องคือ 3
คำอธิบาย
กระบวนการดูดกลับ (Reabsorption) ของน้ำ Na+, Cl- ที่ท่อของหน่วยไต (Nephron) ออกสู่บริเวณของเหลวระหว่างเซลล์ โดยจะมีการดูดน้ำและอิออนเกลือกลับ 75% นอกจากนี้ ยังมีการดูดกลับกรดอะมิโนน้ำตาล และวิตามินด้วยกระบวนการ Active transport
การเคลื่อนที่ของ Na+, Cl- จากของเหลวระหว่างเซลล์จะเข้าสู่หลอดไตบริเวณ Loop of Henle ขาลงด้วยการใช้พลังงาน
ยูเรียถูกกรองครั้งแรกที่ Glomerulus และอาจจะออกจากท่อไตได้บริเวณปลาย Collecting duct

27. กระบวนการใดพบทั้งในเซลล์โปรคาริโอต (Prokaryotes) และยูคาริโอต (Eukaryotes)
ก. ฟอสฟอริเลชัน (Phosphorylation)
ข. การลำเลียงแบบแอกทีฟ (Active transportation)
ค. การสังเคราะห์โปรตีน
ง. การจำลองแบบของ DNA
1. ก, ข. และ ค.
2.ข, ค. และ ง.
3.ก, ค. และ ง.
4.ก, ข., ค. และ ง.

คำตอบที่ถูกต้องคือ 4
คำอธิบาย:Prokaryotic cell และ Eukaryotic cell ต่างก็เป็นเซลล์ที่มีเยื่อหุ้มเซลล์ จึงควรทำงานเหมือนกันได้

28.กรดแลกติกจะไม่มีการสะสมอยู่ในกล้ามเนื้อที่ทีสภาพเช่นไร
1.ขาดออกซิเจน
2.มีออกซิเจนเพียงพอ
3.มีคาร์บอนไดออกไซด์มากในเลือด
4.ในสภาวะเมื้อยล้า

คำตอบที่ถูกต้องคือ 2
คำอธิบาย:กรดแลกติกเกิดเฉพาะเวลาที่กล้ามเนื้อลายขาดออกซิเจน เมื่อใดมีออกซิเจนกระบวนการหายใจระดับเซลล์จะต่อเนื่องไปไม่หยุดแค่กรดแลกติก

29. การฆ่าตัวตายโดยกลั้นลมหายใจนั้นไม่สามารถทำได้เพราะ
1.ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลงจะไปกระตุ้นการทำงานของmedulla oblongata
2.ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นจะไปกระตุ้นการทำงานของmedulla oblongata
3.ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ลดลงจะไปกระตุ้นการทำงานของCerebrum
4.ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เพิ่มขึ้นจะไปกระตุ้นการทำงานของCerebrum

คำตอบที่ถูกต้องคือ 2
คำอธิบาย:การฆ่าตัวตายโดยกลั้นลมหายใจ คนเราจะทำไม่ได้ เนื่องจากปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่สะสมอยู่ในเลือดจะไปกระตุ้นศูนย์ควบคุมการหายใจที่ medulla oblongata

30. ในการหายใจแบบใช้ออกซิเจนของยีสต์ จะได้คาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ออกซิเจนที่มีอยู่ในคาร์บอนไดออกไซด์นั้นได้มาจากอะไร
1.จากน้ำที่เข้าร่วมทำปฏิกิริยาในกระบวนการแมเทบอลิซึม
2.จากอาหารที่ใช้ในกระบวนการหายใจนั้น
3.จากก๊าซออกซิเจนที่แพร่เข้าสู่เซลล์
4.จากโคเอนไซม์ที่ควบคุมปฏิกิริยากระบวนการหายใจนั้น

คำตอบที่ถูกต้องคือ 2
คำอธิบาย:ในการหายใจแบบใช้ออกซิเจนของยีสต์จะได้คาร์บอนไดออกไซด์ออกมาออกซิเจนที่มีอยู่ในคาร์บอนไดออกไซด์ได้มาจากอาหารที่ถูกสลาย

31.สิ่งมีชีวิตกลุ่มใดต่อไปนี้ที่สามารถได้พลังงานในรูปของ ATPจากกระบวนการอื่นนอกจากกระบวนการหายใจ Ent 2539
1.แบคทีเรีย
2.เห็ดรา
3.พืชสีเขียว
4.ถูกทุกข้อ

คำตอบที่ถูกต้องคือ 3
เหตุผล ในพืชสีเขียวสามารถสังเคราะห์ ATP ได้จากกระบวนการสังเคราะห์แสงนอกเหนือจากการหายใจ

32.เมื่อATP แตกตัวเป็นADP พร้อมกับปล่อยพลังงานออกมาทุกๆ โมเลกุลของATPจะปล่อยพลังงานออกมากี่กิโลแคลอรี
1. 19.8กิโลแคลอรี
2. 15กิโลแคลอรี
3. 7.3กิโลแคลอรี
4. 1.2กิโลแคลอรี

คำตอบที่ถูกต้องคือ 3
คำอธิบาย:เมื่อATP สูญเสียฟอสเฟตไป1 หมู่จะกลายเป็น ADP หมู่ฟอสเฟตที่หลุดออกมาจะรวมกับอินทรียสาร สารที่ได้รับฟอสเฟตจะมีพลังงานสูงขึ้น เรียกกระบวนการที่สารรวมกับกลุ่มฟอสเฟตว่าฟอสโฟรีเลชั่น

33.ฮอร์โมนเพศของสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังเป็นสารประเภทเดียวกับสารในข้อใด
1. เพปไทด์โปรตีน
2.คอเลสเตอรอล
3.ไตรกรีเซอไรด์
4.ไกลโคโปรตีน

คำตอบที่ถูกต้องคือ 2
คำอธิบาย:ฮอร์โมนเพศของสัตว์มีกระดูกสันหลัง เช่น Progesterone, Estrogen, Testosterone มีโครงสร้างเคมีเป็นพวกสเตรอยด์ สร้างมาจากคอเลสเตอรอล

34.คาร์บอนไดออกไซด์จากเซลล์เมื่อถูกลำเลียงในกระแสเลือดไปยังจมูก จะไม่ผ่านโครงสร้างในข้อใด
1. ซูพิเรียเวนาคาวา
2.อัลวิโอไล
3.เวนตริเคิลขวา
4.พัลโมนารีแกน

คำตอบที่ถูกต้องคือ 4
คำอธิบาย:คาร์บอนไดออกไซด์จากเซลล์ เมื่อถูกลำเลียงในกระแสเลือด คาร์บอนไดออกไซด์ส่วนใหญ่จะทำปฏิกิริยากับน้ำในเม็ดเลือดเกิดเป็นกรดคาร์บอ นิก ซึ่งจะแตกตัวต่อไปได้ไฮโดรเจนคาร์บอเนตไอออนและไฮโดรเจนไอออนไหลเข้าสู่เส้น เลือดซูพิเรียเวนาคาวาเข้าสู่หัวใจห้องเอเตรียมขวา ผ่านลิ้น Tricuspid ลงสู่เวนตริเคิลขวา แล้วถูกสูบฉีดต่อไปยังเส้นเลือดฝอยรอบๆ ถุงลมปอด ไฮโดรเจนคาร์บอเนตไอออนและไอโดรเจนไอออนจะรวมตัวกันเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ใน เส้นเลือดฝอยสูงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ในถุงลมปอด จึงเกิดการแพร่คาร์บอนไดออกไซด์จากเส้นเลือดฝอยเข้าสู่ถุงลมปอด และขับออกนอกร่างกายพร้อมกับลมหายใจออกผ่านทางรูจมูก

35.ไมโครทูบูลจะพบอยู่ในโครงสร้างในข้อใด
ก. เส้นใยสปินเดิล
ข. เซนทริโอล
ค. ส่วนหางของตัวอสุจิของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
1. ก
2.ก และ ข.
3.ข และ ค.
4.ก, ข. และ ค.

คำตอบที่ถูกต้องคือ 4
คำอธิบาย: เซนทริโอล (Centriole) ประกอบด้วยไมโครทูบูลที่มีโครงสร้างแบบ 9 + 0ส่วนหางของตัวอสุจิ (Flagellum) ประกอบด้วยไมโครทูบูลที่มีโครงสร้าง 9 + 2 เส้นใยสปินเดิล (Spindle fiber) เป็นเส้นใยโปรตีนที่ประกอบด้วยกลุ่มของไมโครทูบูลที่สร้างมาจากเซนทริโอล

36.การรักษาสมดุลของร่างกาย มีการทำให้องค์ประกอบของของเหลวในข้อใดคงที่มากที่สุด
ก. รอบๆ เซลล์
ข. ภายในเซลล์
ค. ภายในเส้นเลือด
1. ก
2.ข
3.ก และ ค.
4.ก, ข. และ ค.

คำตอบที่ถูกต้องคือ 4
คำอธิบาย:การรักษาสมดุลของร่างกาย (Homeostasis) คือ ความสามารถในการปรับระดับของสภาพแวดล้อมภายในร่างกาย เช่น ระดับน้ำ แร่ธาตุ pH และอุณหภูมิให้มีความเหมาะสมต่อการดำรงชีวิต และการทำงานของเซลล์ภายในร่างกาย มีผลทำให้องค์ประกอบของเหลวทั้งรอบๆ เซลล์ ภายในเซลล์และภายในเส้นเลือดคงที่ มีความสัมพันธ์กันทั้งหมด

37.ผู้ผลิตและผู้ย่อยสลาย สามารถทำกิจกรรมในข้อใดได้เหมือนกัน
ก. ผลิตคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการหายใจ
ข. ผลิตโปรตีน
ค. ผลิต ATP จากการหายใจแบบใช้ออกซิเจน
1. ก
2.ข
3.ก และ ข.
4.ข และ ค.

คำตอบที่ถูกต้องคือ 3
คำอธิบาย:ผู้ผลิต (Producer) และ ผู้ย่อยสลาย (Decomposer) สามารถทำกิจกรรมได้เหมือนกัน คือ ผลิตคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการหายใจ และผลิตโปรตีนได้ เพราะต่างก็มีไรโบโซม ซึ่งเป็นแหล่งสังเคราะห์โปรตีน

38. การหยอดวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอให้เด็ก จะทำให้เกิดสภาวะสร้างภูมิคุ้มกันแบบใด
ก. ภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด
ข. ภูมิคุ้มกันจำเพาะ
ค. ภูมิคุ้มกันก่อเอง
ง. ภูมิคุ้มกันรับมา
1. ก และ ค.
2.ก และ ง.
3.ข และ ค.
4.ข และ ง.

คำตอบที่ถูกต้องคือ 3
คำอธิบาย:การหยอดวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอให้เด็ก ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้น เรียกว่า ภูมิคุ้มกันก่อเอง (Active immunization) และเป็นภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น เมื่อร่างกายเคยได้รับแอนติเจนชนิดนั้นๆ มาก่อน เรียกว่า เป็นภูมิคุ้มกันจำเพาะ (Aquired immunity หรือ Specific immunity)

39. ถ้าขาดวิตามินใด จะมีผลทำให้ประสาทเสื่อมและการทำงานของกล้ามเนื้อผิดปกติ
1. ไนอะซิน
2.ไพริดอกซิน
3.ไรโบเฟลวิน
4.ไทอามีน

คำตอบที่ถูกต้องคือ 2
คำอธิบาย:วิตามิน B6 (Pyridoxine) ทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์ที่จำเป็นต่อเมแทบอลิซึมของกรดอะมิโนและกรดไขมันหลายชนิด เช่น เมแทบอลิซึมของกรดทริปโตเฟน คนที่ขาดวิตามิน B6 จะเกิดอาการบวม คันตามผิวหนัง ปวดตามมือและเท้า ประสาทเสื่อม

40. ในหนูตัวผู้เมื่อผูกรัดเส้นเลือดทุกเส้นที่นำเลือดจากไฮโปทาลามัสมายังต่อมใต้สมอง กระบวนการใดยังคงดำเนินไปได้อย่างปกติ
ก. การดูดกลับของน้ำที่หน่วยไต
ข. การสร้างอสุจิ
ค. การเตรียมตัวต่อสู้หรือหนีเมื่อมีเหตุคับขัน
ง. การสร้างอินซูลิน
1. ก, ข. และ ค.
2.ข, ค. และ ง.
3.ก, ค. และ ง.
4.ก, ข. และ ง.

คำตอบที่ถูกต้องคือ 3
คำอธิบาย:ถ้า ผูกรัดเส้นเลือดที่นำเลือดจากไฮโพทาลามัสมายังต่อมใต้สมองของหนูตัวผู้ จะทำให้หนูไม่สามารถสร้างอสุจิได้ เพราะขาด FSH ที่จะช่วยกระตุ้นการเจริญของอัณฑะ และขาด LH ที่จะมากระตุ้น Interstitial cell ในอัณฑะให้หลั่ง Testosterone